อันดับ6 : F-18 Hornet
เอฟ-18 ฮอร์เน็ท (F-18 Hornet)
F-18 เป็น Multirole aircraftครับ ทำได้หลายภารกิจ F-18 ช่วงที่ผลิตออกมาใหม่ๆ นั้น "ห่วยมาก" ครับไม่มีใครต้องการจิงๆ พอจนอัพเกรดมาเป็น F-18C แล้วถึงจะดีขึ้นครับ เครื่องยนต์ใหม่ ของ F-18 นั้นถือได้ว่า เป็นเครื่องยนต์ของเครื่องบินที่ดีที่สุดในโลกครับ และ F-18ก็มีระบบช่วงล่างที่ดีมาก แต่ F-18 นั้นสูญเสียมากไปหน่อยในการรบครับ และถ้าเทียบจากความก้าวหน้าแล้ว F-18 นั้น ไม่ได้เป็น ความก้าวหน้าครั้งยิ่งใหญ่ของเทคโนโลยีเลยครับ แต่ก็ยังเป็นเครื่องที่ดีมากๆครับ
ต้นกำเนิด
ซูเปอร์ฮอร์เน็ทเป็นแบบที่มีขนาดใหญ่กว่าและก้าวหน้ากว่าของเอฟ/เอ-18ซี/ดี ฮอร์เน็ท รุ่นก่อนหน้าได้ทำตลาดโดยแมคดอนเนลล์
ดักลาสโดยใช้ชื่อว่าฮอร์เน็ท 2000 เมื่อต้นทศวรรษที่ 1980 ความคิดของฮอร์เน็ท
2000 ถูกนำไปดัดแปลงให้ก้าวหน้าเป็นเอฟ/เอ-18 พร้อมปีที่มีขนาดใหญ่กว่า
ลำตัวที่ยาวกว่าเพื่อบรรทุกอาวุธและเชื้อเพลิงได้มากยิ่งขึ้น รวมทั้งเครื่องยนต์
การบินของกองทัพเรือสหรัฐฯ เผชิญหน้ากับปัญหามากมายในต้นทศวรรษที่ 1990
โครงการเอ-12 อเวนเจอร์ได้มุ่งมั่นที่จะเข้ามาแทนที่เอ-6 อินทรูเดอร์และเอ-7 คอร์แซร์ 2 ได้ประสบปัญหาและต้องถูกยกเลิกไป
ในเวลานี้เองที่สงครามเย็นสิ้นสุดลงส่งผลให้กองทัพมีการเปลี่ยนแปลงและเกิดการตัดงบ โดยปราศจากโครงการที่ดีกองทัพเรือได้มองว่าการนำแบบเดิมที่มีอยู่แล้วมาพัฒนาให้ดีขึ้นดูเป็นทางเลือกที่น่าสนใจ
ด้วยการเป็นอีกทางเลือกของเอ-12 แมคดอนเนลล์
ดักลาสได้เสนอโครงการ"ซูเปอร์ฮอร์เน็ท"ที่จะพัฒนาเอฟ/เอ-18 และทำหน้าที่เป็นสิ่งที่จะมาแทนที่เอ-6
อินทรูเดอร์
ในเวลาเดียวกันนั้นกองทัพเรือต้องการกองบินสำหรับการป้องกันเพื่อเข้าทำหน้าที่โครงการเดิมที่ถูกยกเลิกไป
ซึ่งเป็นข้อเสนอที่จะทำให้เอฟ-22 แร็พเตอร์ใช้งานกับกองทัพเรือได้
ประวัติการใช้งาน
เอฟ/เอ-18เอฟจอดบนดาดฟ้าของเรือบรรทุกเครื่องบินยูเอสเอส ดไวท์ ดี ไอเซนฮาวร์ขณะปฏิบัติการอยู่ในทะเลอาหรับเมื่อเดือนธันวาคม
พ.ศ. 2549
หน่วยแรกที่ได้รับเอฟ/เอ-18 ซูเปอร์ฮอร์เน็ทคือฝูงบินขับไล่โจมตีที่ 115
เมื่อวันที่
6 พฤศจิกายน พ.ศ. 2545 เอฟ/เอ-18อีสองลำได้ทำการสนับสนุนให้กับปฏิบัติการเซาท์เธิร์นวอชท์โดยเข้าจัดการกับขีปนาวุธพื้นสู่อากาศที่อัลคัทและศูนย์ป้องกันทางอากาศและบังเกอร์ที่ฐานทัพอากาศทัลลิล
นักบินนายหนึ่งชื่อจอห์น เทอร์เนอร์ได้ทิ้งระเบิดเจแดมขนาด 900
กิโลกรัมเป็นครั้งแรกของเอฟ/เอ-18อี
ในการสนับสนุนปฏิบัติการปลดปล่อยอิรัก ฝูงบินขับไล่โจมตีที่
14 41 และ 115 ได้บินเข้าทำการสนับสนุนทางอากาศ โจมตี คุ้มกัน
กดดันการป้องกันทางอากาศ และเติมเชื้อเพลิงทางอากาศ เอฟ/เอ-18อีสองลำจากฝูงบินขับไล่โจมตีที่
14 และเอฟ/เอ-18เอฟสองลำจากฝูงบินขับไล่โจมตีที่ 41 ถูกใช้งานที่แนวหน้าบนเรือยูเอสเอส อับราฮัม ลินคอล์น ฝูงบินขับไล่โจมตีที่
14 ทำหน้าที่ในการเติมเชื้อเพลิงและฝูงบินขับไล่โจมตีที่ 41 เป็นการควบคุมทางอากาศแนวหน้า
ในวันที่ 6 เมษายน พ.ศ. 2548 ฝูงบินขับไล่โจมตีที่ 154 และ 147
ได้ทำการทิ้งระเบิดนำวิถีด้วยเลเซอร์ขนาด
500 ปอนด์เข้าใส่เป้าหมายที่เป็นศัตรูในทางตะวันออกของแบกแดด
ในวันที่ 8 กันยายน พ.ศ. 2549 ฝูงบินขับไล่โจมตีที่ 211 ใช้เอฟ/เอ-18เอฟซูเปอร์ฮอร์เน็ทพร้อมระเบิดจีบียู-12 และจีบียู-38 เข้าโจมตีกลุ่มตาลิบันและที่มั่นทางตะวันตกและตะวันตกเฉียงเหนือของเมืองคานดาฮาร์
นี่เป็นครั้งแรกที่หน่วยได้ทำการรบโดยใช้ซูเปอร์ฮอร์เน็ท
ในปีพ.ศ. 2549-2550 ฝูงบินขับไล่โจมตีที่ 103 และ 143
บนเรือยูเอสเอส
ดไวท์ ดี ไอเซนฮาวร์ ได้ทำการสนับสนุนปฏิบัติการปลดปล่อยอิรัก เอ็นดัวริ่งฟรีดอม
และปฏิบัติการตามชายฝั่งโซมาลี และพร้อมกับฮอร์เน็ทดั้งเดิมของฝูงบินขับไล่โจมตีที่
131 และ 83 พวกเขาได้ทำการทิ้งระเบิด 140 ลูก และทำการยิงกราดเกือบ 70 ครั้ง
ที่มา : www.th.wikipedia.org/wiki/เอฟ/เอ-18อี/เอฟ_ซูเปอร์ฮอร์เน็ท
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น